วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การจัดซุ้ม
หลักในการจัดซุ้ม
1. สีที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับซุ้มดอกไม้คือ สีขาว เพราะจะดูกลมกลืนกับชุดของเจ้าสาว จะทำให้ เจ้าสาวดูมืดหรือดำกว่าปกติ แถมทำให้เจ้าสาวดูไม่สวยเด่นอย่างที่ควรจะเป็นด้วย
2. ซุ้มดอกไม้ควรมีขนาดเหมาะสมกับจำนวนแขกที่มาในงาน
3. ควรจะมีการแซมใบไม้เสริมเข้าไปในช่อดอกไม้ด้วย เพราะสีเขียวของใบไม้จะทำให้ช่อดอกไม้นั้นดูสวยเด่นสะดุดตาขึ้น แถมประหยัดงบในการซื้อดอกไม้ได้อีกด้วย
4. เพื่อเป็นการประหยัดงบค่าซุ้มดอกไม้ อาจมีการแซมดอกไม้พลาสติก หรือใช้การตกแต่งที่น้อยลงก็ได้ เพราะนอกจากจะประหยัดงบแล้วยังนับเป็นลูกเล่นของซุ้มดอกไม้อีกด้วย
5. ควรแน่ใจในเรื่องสถานที่การจัดวางซุ้มดอกไม้ ซึ่งควรแยกออกจากบริเวณทางเดินที่แออัดและควรมีบริเวณที่กว้างขวางพอที่จะ จัดวาง เพราะเวลาถ่ายรูปจะได้ไม่เป็นที่กีดขวางทางเดิน
หากต้องการสิ่งอื่นๆ นำมาทำเป็นซุ้มแทนดอกไม้ ก็มีหลายตัวเลือกที่ไม่ควรจะมองข้าม เช่น ลูกโป่ง , ผ้า หรือสิ่งอื่นๆ แทนก็ได้ แต่ควรคำนึงถึงโทนสี และรูปแบบด้วยว่าเข้ากันได้กับ theme งานของเราหรือไม่
1. ซุ้มดอกไม้งานแต่งงาน
หลากหลายไอเดียกับซุ้มดอกไม้งานแต่งงาน การเลือกช่อดอกไม้เจ้าสาว
ช่อดอกไม้เจ้าสาว ถือเป็นดอกไม้ชิ้นสำคัญที่สุดใน งานแต่งงาน เลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ เพราะตอนปิดท้ายของงาน เจ้าสาวจะโยนช่อดอกไม้ ส่งต่อไปยังสาวๆ ที่จะเป็นผู้โชคดีในรายต่อไป ดังนั้นจึงมักมีการเลือกเฟ้น และคัดสรร ช่อดอกไม้ กัน อย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เข้ากับ ชุดเจ้าสาว คอนเซ็ปต์ของงาน และเพื่อให้ได้ดอกไม้ที่คงทนถาวร ไม่ช้ำง่าย ในสถานการที่เป็นงาน out door อีกด้วย ทั้งนี้ การจัด ช่อดอกไม้ที่มักได้รับนิยม ได้แก่...
1. ช่อยาว (ARM) เป็นการจัดช่อดอกไม้ที่ดูหรูหรา ซึ่งมักนิยมใช้ดอกไม้ที่ ก้านยาว และอาจโค้งงอเล็กน้อย เวลาถือต้องพาดไว้ในอ้อมแขน ดอกไม้ที่เหมาะสำหรับจัดช่อแบบ ARM ได้แก่ กุหลาบ ลิลลี่ ดอกพุด ดอกฟาแลน ดอกไลเซนทัส ดอกไฮเดรนเยีย ดอกคาลลาลิลลี่ กล้วยไม้ และเถาไอวี่ เป็นต้น
2. ช่อแบบบิเอร์ไมร์ (Biedermeier) คือ ช่อดอกไม้ที่มีรูปทรงคล้ายพานพุ่ม มีการจัดอย่างซับซ้อน โดยนำดอกไม้แต่ละชนิด มาเรียงเป็นรูปวงแหวนซ้อนกันเป็นชั้นๆ
3. ช่อทรงน้ำตก (Cascade) คือ ช่อดอกไม้ที่จัดปลายให้ยาว และเป็นฝอยลงมาคล้ายรูปน้ำตก
4. ช่อแบบโนสเกย์ (Nosegay) คือ ช่อดอกไม้ขนาดเล็กซึ่งใช้ดอกไม้หลายชนิดมารวมเป็นช่อแบบง่ายๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนเพิ่งเก็บมาจากสวน
5. ช่อทรงกลม (Round หรือ Dome) มักจะใช้ดอกไม้ในปริมาณค่อนข้างมาก มาจัดเป็นรูปทรงกลม ให้ดูสวยงาม
6. ช่อแบบผูกปลายสำหรับมือถือ (Hand-Tied) คือ ช่อดอกไม้ที่มีการใช้ริบบิ้นหรือวัสดุสวยงามอื่นๆ ผูกก้านช่อไว้ให้เป็นที่สำหรับถือ เป็นช่อดอกไม้ที่ ดูโรแมนติกและได้รับความนิยมมากที่สุด ดอกไม้ที่ มักนิยมใช้สำหรับการจัดช่อชนิดนี้ มีหลายชนิดด้วยกัน อาทิ กุหลาบขาว แคทรียา เบญจมาศขาว-เหลือง เป็นต้น
7. ช่อแบบใช้เทคนิคพันด้วยลวด (Wired) เป็นช่อดอกไม้ที่ใช้ลวดพันยึดดอกไม้แทนก้าน ซึ่งทำให้ดอกไม้เข้าเป็นช่อรูปทรงแปลก ๆ แบบสมัยใหม่
8. ช่อทรงลูกปัด (Beaded) คือการใช้ดอกหรือผลที่มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ จัดเป็นช่อ เช่น ผลเบอร์รี่ประเภทต่างๆอย่างไรก็ดี การเลือกช่อดอกไม้เจ้าสาวนั้นไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวแต่อย่างใด แต่จะขึ้นอยู่กับรสนิยมและความพอใจของเจ้าสาวเองเป็นหลักซึ่งมีข้อควรพิจารณา 3 ประการ คือ
1. ขนาดของช่อดอกไม้ควรสมดุลกับรูปร่างของเจ้าสาวซึ่งถ้าเจ้าสาวรูปร่างเล็กก็ไม่ควรถือดอกไม้ช่อใหญ่เกินไป ในทางตรงข้าม ดอกไม้ช่อเล็กก็จะทำให้เจ้าสาวที่มีรูปร่างสูงใหญ่ดูเทอะทะ ไม่สมส่วนขึ้นมาได้เช่นกัน
2. ลักษณะของช่อดอกไม้ ควรดูเข้ากันกับสีและสไตล์ของชุดเจ้าสาว
3. ควรคำนึงถึงฤดูกาล และสถานที่จัดงาน เช่น ช่อดอกไม้เจ้าสาวในงานเลี้ยงรับรองที่จัดขึ้นกลางแจ้ง ในช่วงฤดูร้อน ก็ควรใช้ดอกไม้ที่ทนอากาศร้อนได้ดี เช่น กล้วยไม้ เป็นต้น
การจัดช่อดอกไม้ภายในงาน
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมก็คือ เมื่อเลือก Theme งาน ได้แล้ว ก็มาถึง การเลือกจุดสำคัญที่จะวางดอกไม้ ซึ่งมีจุดใหญ่ๆ ที่ต้องคำนึงถึง ดัง ต่อไปนี้คือ1. ดอกไม้บริเวณหน้างาน 2. แจกันบนโต๊ะเซ็นอวยพร3. Archway หรือมุมถ่ายภาพ4. ดอกไม้บนเวที5. ดอกไม้ตามซุ้มอาหาร6. ดอกไม้รอบๆ บริเวณงาน7. Corsage หรือดอกไม้ติดหน้าอก8. Flower Bougeut ช่อดอกไม้ถือ
อย่างไรก็ดี สำหรับการประดับประดาดอกไม้ในงานวิวาห์นั้น มีข้อจำกัดอยู่ตรง สถานที่แต่งงาน ซึ่งถ้าบริเวณที่จัดงานเป็นห้อง ที่ไม่ กว้างมากนัก ต้องระวังอย่าใช้ดอกไม้ที่มีกลิ่นแรงมาก เพราะกลิ่นดอกไม้ จะอบอวลไปรอบๆ ห้อง และเมื่อไปผสมกับกลิ่นอาหาร ยิ่ง จะทำให้บรรยากาศภายในห้องน่าอึดอัดขึ้นมาทันที
2. การจัดซุ้มแต่งงาน
ที่นิยมกันมี 2 ลักษณะ คือ ซุ้มดอกไม้ และซุ้มลูกโป่ง ซึ่งมีวิธีการจัดดังต่อไปนี้
ซุ้มดอกไม้
1. สีที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับ ซุ้มดอกไม้ คือ สีขาว เพราะจะดูกลมกลืนกับชุดของเจ้าสาว จะทำให้เจ้าสาวดูมืดหรือดำกว่าปกติ แถมทำให้เจ้าสาวดูไม่สวยเด่นอย่างที่ควรจะเป็นด้วย2. ซุ้มดอกไม้ ควรมีขนาดเหมาะสมกับจำนวนแขกที่มาในงาน 3. ควรจะมีการแซมใบไม้เสริมเข้าไปใน ช่อดอกไม้ ด้วย เพราะสีเขียวของใบไม้จะทำให้ ช่อดอกไม้นั้นดู สวยเด่นสะดุดตาขึ้น แถมประหยัดงบในการซื้อ ดอกไม้ ได้อีกด้วย4. เพื่อเป็นการประหยัดงบค่า ซุ้มดอกไม้ อาจมีการแซมดอกไม้พลาสติก หรือใช้การตกแต่งที่น้อยลงก็ได้ เพราะนอกจากจะประหยัดงบแล้วยังนับเป็นลูกเล่นของ ซุ้มดอกไม้ อีกด้วย5. ควรแน่ใจในเรื่องสถานที่ การจัดวางซุ้มดอกไม้ ซึ่งควรแยกออกจากบริเวณทางเดินที่แออัดและควรมีบริเวณที่กว้างขวางพอที่จะจัดวาง เพราะเวลาถ่ายรูปจะได้ไม่เป็นที่กีดขวางทางเดิน6. หากต้องการสิ่งอื่นๆ นำมาทำเป็นซุ้มแทนดอกไม้ ก็มีหลายตัวเลือกที่ไม่ควรจะมองข้าม เช่น ลูกโป่ง ,ผ้า หรือสิ่งอื่นๆ แทนก็ได้ แต่ควรคำนึงถึงโทนสี และรูปแบบด้วยว่าเข้ากันได้กับ theme งานของเราหรือไม่
3. ซุ้มลูกโป่ง
หากคู่บ่าวสาวไม่ชอบการจัดซุ้มดอกไม้ อาจจะด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ เช่น งบประมาณมีจำนวนจำกัด หรือบ่าวสาวแพ้เกสรดอกไม้ เป็นต้น ซุ้มลูกโป่งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะทำให้งานออกมาดูสวยงามไม่แพ้การจัดซุ้มดอกไม้เลยทีเดียว
การออกแบบซุ้มลูกโป่ง
สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1. การดัดแปลงให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ 2. การจัดช่อบูเกต์หรือช่อดอกไม้จากลูกโป่ง 3. การตกแต่งสถานที่ด้วยลูกโป่งการจัดซุ้มลูกโป่ง นั้น อาจจะใช้ลูกโป่งเพียงประเภทเดียว หรือ 2-3 ประเภท รวมกันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ซึ่งคู่บ่าวสาวจะต้องบอกถึงความต้องการของตนเองในเรื่อง รูปแบบ ขนาด สีสัน งบประมาณให้ช่างทราบก่อนล่วงหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น